ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์

หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ ชิ้นส่วนที่มีผลต่อประสิทธิภาพการกระจายลมสำหรับระบบปรับอากาศ

ในระบบปรับอากาศหรือระบายอากาศขนาดใหญ่ ที่มีการใช้ท่อ ท่อดักท์ เชื่อมต่อเพื่อส่งลมไปยังพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของอาคารนั้น จะต้องมีการใช้งานร่วมกันกับชิ้นส่วนประเภทหนึ่งที่เรียกกันว่า หัวจ่ายลม Jet หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ ซึ่งมีหน้าที่กระจายลม บังคับทิศทางลม ให้ไปยังพื้นที่ที่ต้องการ เป็นตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ระบบปรับอากาศทำงานได้ดียิ่งขึ้น มีทั้งแบบหัวจ่ายแอร์แบบกลม หัวจ่ายแอร์แบบ 4 ทิศทาง หัวจ่ายแอร์แบบใบ 2 ชั้น หัวจ่ายแอร์แบบลมกลับ หัวจ่ายแอร์แบบ Slot หัวจ่ายแอร์แบบ Ball Jet และอีกหลากหลาย ดังนั้น ในการเลือกใช้งาน จึงต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้รอบด้าน เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

 

คุณสมบัติหัวจ่ายลม Jet หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ ที่ควรเลือกใช้

1. สามารถกระจายลม กำหนดทิศทางลม ที่ส่งมาตามท่อดักท์ ได้อย่างสม่ำเสมอ ในทิศทางที่ต้องการ ช่วยประหยัดพลังงานได้
    
2. ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียม หรือพลาสติก อย่างดี แข็งแรงทนทานทนอุณหภูมิร้อนจัดเย็นจัดได้ ทนต่อความชื้นได้ ไม่เกิดสนิม
    
3. มีรูปทรง รูปร่าง ลักษณะ สีสัน ทันสมัย สวยงาม เมื่อนำไปติดตั้งกับบริเวณพื้นที่ที่ต้องการ สามารถประยุกต์ตกแต่งในงานออกแบบภายในได้ในทุก ๆ ตำแหน่งที่เลือกสรร
    
4. ค้นหาอะไหล่ทดแทนได้ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ท้องตลาดมีจำหน่ายแบบงานคุณภาพในราคาที่จับต้องได้
    
5. ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย หัวจ่ายลม Jet หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ ท่อดักท์ สามารถให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา ในการเลือกใช้ ติดตั้งใช้งาน ได้อย่างถูกต้อง ทันตามความต้องการ

 

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ หัวจ่ายลม Jet

หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ หัวจ่ายลม Jet ถูกเชื่อมต่ออยู่ในช่วงปลายทางของระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ในพื้นที่แต่ละห้อง แต่ละอาคาร ทำหน้าที่กระจายลม กำหนดทิศทางลม ส่งลมที่ลำเลียงมาตามท่อดักท์ ทำให้เกิดการหมุนเวียนอากาศ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มลดอุณหภูมิในระบบปรับอากาศให้ได้ตามที่ต้องการ รวมถึงการประหยัดพลังงาน เพราะฉะนั้นจึงต้องมีปัจจัยในการเลือกใช้ให้เหมาะสม ดังนี้

1. สำรวจพื้นที่หน้างาน สถานที่ ที่ต้องการติดตั้งระบบปรับอากาศ ระบายอากาศ มีวัตถุประสงค์ รูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน ขนาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง เล็ก กลาง ใหญ่ จะใช้หน้ากากแอร์ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่เช่นกัน รวมไปถึงตำแหน่งในการติดตั้ง บริเวณฝ้าเพดาน ข้างผนัง พื้นทางเดิน ก็จะมีลักษณะหัวจ่ายแอร์ที่แตกต่างกันไป อาทิ
   
   • ที่พักอาศัย บ้านเรือนทั่วไป การใช้หัวจ่ายแอร์แบบเป่าข้าง 2 ชั้น ใช้สีสันให้เข้ากันกับสีห้องหรือสีฝ้าในพื้นที่ติดตั้งก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีได้
   • ที่ทำงาน สำนักงาน การใช้หัวจ่ายแอร์แบบสี่เหลี่ยม 4 ทิศทาง จะช่วยให้กระจายลมได้ดี แต่ละส่วนพื้นที่ได้รับอุณหภูมิที่ต้องการอย่างทั่วถึง
   • ห้องโถง ยิมเนเซียม ห้องจัดแสดงสินค้า การใช้หัวจ่ายแอร์แบบบอลเจ็ท จะส่งลมได้ในระยะไกล ปรับทิศทางลมได้ 90 องศา เน้นจ่ายลมไปยังตำแหน่งที่ต้องการ (spot air con)
      
2. ดีไซน์ รูปร่าง รูปทรง กลม เหลี่ยม โค้ง สีสัน ขนาด ความยาว ของ หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ หัวจ่ายลม Jet เลือกให้เข้ากับสถานที่ พื้นที่ใช้งานตามความพึงพอใจของเจ้าของพื้นที่นั้น ๆ โดยให้สอดคล้องกับหลักวิศวกรรมไปด้วย
    
3. วัสดุสำหรับหัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ หัวจ่ายลม Jet ต้องมีความแข็งแรงทนทาน มีมาตรฐานรองรับ ส่วนใหญ่พบเป็น อลูมิเนียม จะมีความแข็งแรง อายุการใช้งานที่ยาวนาน หรือพลาสติกจะมีความยืดหยุ่น เบา ติดตั้งง่าย ใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ไม่ทำให้เกิดหยดน้ำเกาะที่หัวจ่าย
    
4. เสียงรบกวนต่ำ ในการออกแบบสำหรับการติดตั้งเลือกใช้หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ หัวจ่ายลม Jet นั้น ต้องเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ทำให้เกิดเสียงดัง หรือทำให้เกิดเสียงรบกวนภายในพื้นที่นั้นในระดับที่น้อยมาก จึงจะถือเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการยอมรับเลือกใช้งาน
    
5. ราคาของหัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ หัวจ่ายลม Jet ควรเป็นราคาที่จับต้องได้ เหมาะสมกับวัสดุ การออกแบบ สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด ได้รับมาตรฐานสากล รับรองคุณภาพการใช้งาน คุ้มค่ากับการลงทุน มีการรับประกันสินค้า
    
6. ปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งต้องใช้การคำนวณทางหลักวิศวกรรม โดยช่าง ผู้ออกแบบ ที่มีความชำนาญ เช่น
   • การกระจายลมของ หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ หัวจ่ายลม Jet โดยใช้ค่าความเร็วของอากาศที่ออกจากหัวจ่ายแอร์ ค่าคงที่ของระยะการจ่ายลม ค่าที่ได้จากการคำนวณเหล่านี้จะช่วยในการเลือกหัวจ่ายแอร์ได้อย่างเหมาะสม
      
   • ปรากฏการณ์ Coanda หรือ Surface Effect เป็นปรากฏการณ์ที่อากาศจากหัวจ่ายแอร์ออกไปด้วยความเร็วระยะหนึ่ง แล้วเกิดการผสมกันกับอากาศภายในห้องหรือบริเวณพื้นที่นั้น แล้วทำให้อุณหภูมิของลมที่ออกมาจากหัวจ่ายแอร์มีค่าใกล้เคียงกับอากาศในบริเวณหรือห้องนั้น ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้คำนวณจุดและจำนวนที่จำเป็นในการติดตั้งหัวจ่ายแอร์ได้มากขึ้น
      
   • การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอากาศที่ออกมาจากหัวจ่ายแอร์ เมื่อมีความร้อนหรือความเย็นส่งเข้าไปในห้องหรือบริเวณพื้นที่ต่าง ๆ จะมีการเหนี่ยวนำอากาศ เกิดการหมุนเวียนอากาศ มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่ต่อลงหรือสูงขึ้น จนใกล้เคียงกับอุณหภูมิบริเวณนั้น ซึ่งเป็นการพิจารณาส่วนของอากาศเข้ามาหลังการประเมินปัจจัยอื่น โดยการแทนค่าลงไป เช่น อุณหภูมิอากาศจากระยะห่างกับหัวจ่ายแอร์ อุณหภูมิเฉลี่ยอากาศภายในห้อง อุณหภูมิของอากาศที่หัวจ่ายแอร์ เป็นต้น
      
   • การแผ่กว้างออกของกระแสอากาศจากหัวจ่ายแอร์ เมื่ออากาศผ่านท่อดักท์ออกจากหัวจ่ายแอร์ ทั้งแนวราบหรือแนวดิ่ง โดยไม่ปรับมุมของใบปรับลม และไม่มีฝ้าเพดานหรือผนัง ลักษณะของกระแสอากาศที่ออกจากหัวจ่ายแอร์จะแผ่ออกประมาณ 22 องศา แต่หากมีการปรับมุมเกิดขึ้น จะส่งผลต่อระยะการจ่ายลมในแนวเส้นตั้งฉากกับหัวจ่ายแอร์
      
   • ระยะตกในแนวดิ่งของลมจ่าย ใช้ระยะความสูงของฝ้าเพดานที่ติดตั้งหัวจ่ายแอร์ให้พื้นที่ห้องได้รับลมที่เท่ากัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดสินค้าของผู้ผลิตแต่ละราย เช่น ระยะความสูงฝ้าเพดาน 9 ฟุต จะเลือกหัวจ่ายแอร์ที่มีระยะการจ่ายลมที่ความเร็วลมปลายทางเท่ากับ 150 FPM ในระยะไม่เกินกึ่งกลางระหว่างหัวจ่ายแอร์ 2 หัว หรือไม่เกินระยะหัวจ่ายแอร์ถึงผนังทึบ แต่ถ้าระดับฝ้าเพดานสูงกว่า 10 ฟุต จะถูกออกแบบให้ความเร็วอากาศที่บริเวณผู้ใช้มากขึ้น 1 ฟุตต่อนาทีในทุก ๆ ความสูง 1 ฟุตของระดับฝ้าเพดาน
      
   • การจ่ายลมเย็นแบบ Displacement Air Ventilation เป็นการจ่ายลมของหัวจ่ายแอร์ที่อยู่ระดับใกล้ผู้ใช้งานหรือใกล้พื้นห้อง และตำแหน่งลมกลับอยู่ระดับเหนือผู้ใช้งานหรือฝ้าเพดาน วิธีนี้จะประหยัดพลังงานเนื่องจากตำแหน่งหัวจ่ายแอร์อยู่ใกล้ผู้ใช้งาน ซึ่งอุณหภูมิของหัวจ่ายแอร์จะสูงกว่าปกติเพื่อให้ลมเย็นปะทะกับผู้ใช้งานโดยตรง และจะใช้ระบบ Pre Cooled Fresh Air มาช่วยเสริมป้องกันความชื้นที่เกิดจากอากาศเดิมภายนอก
      
   • การจ่ายลมเย็นจากฝ้าเพดานแบบราบเรียบ จะออกแบบให้ความเร็วของหัวจ่ายแอร์อยู่ระหว่าง 70-100 FPM เพื่อให้กระแสลมพุ่ง เกิดการเหนี่ยวนำอากาศในพื้นที่น้อยที่สุด ซึ่งใช้หัวจ่ายแบบ Perforated ไม่มีใบทิศทางลม ส่วนใหญ่ใช้กับห้องคลีนรูม ห้องผ่าตัด ห้องที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ
      
   • การออกแบบอัตรากระจายลมเย็นในระบบปรับอากาศ ต้องทราบอัตราการจ่ายลมเย็นในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมาจากการคำนวณภาระการทำความเย็น หากพื้นที่นั้นมีความร้อนสัมผัสมากโดยเฉพาะใกล้หน้าต่าง ประตู อัตราการจ่ายลมเย็นก็จะมากกว่าด้านใน ซึ่งหากอัตราการจ่ายลมเย็นต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน จะเป็นผลให้อากาศภายในพื้นที่นั้นไม่มีการเคลื่อนไหว จะทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด ไม่ปลอดโปร่งขึ้นได้
      
   • การกำหนดตำแหน่งหัวจ่ายแอร์และการเลือกชนิดหัวจ่ายแอร์ หากเป็นพื้นที่โดยทั่วไป จะใช้ระยะการจ่ายลมบริเวณผู้ใช้งานไม่เกิน 50 FPM แต่ถ้าเป็นพื้นที่ที่ต้องการความแม่นยำในเรื่องอุณหภูมิ ระดับเสียง ความเร็วลม จะต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ด้วย
     ที่มา บทความวิชาการ สมาคมวิศวกรรมปรับอากาศฯ
      

ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้เป็นปัจจัยเบื้องต้นสำหรับการพิจารณาเลือกใช้ หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ หัวจ่ายลม Jet ในระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญประการหนึ่งสำหรับการส่งลมจากท่อดักท์ไปยังพื้นที่ปลายทางตามที่ต้องการ เพื่อให้ได้อุณหภูมิตามที่ได้ออกแบบไว้ ทั้งนี้ต้องกระทำโดยผู้ที่มีประสบการณ์ ชำนาญในหน้างานประเภทดังกล่าว เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน งบประมาณไม่บานปลาย รวมทั้งผลพลอยได้จากการประหยัดพลังงานไปด้วยอีกทาง

บริษัท ซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย ท่อดักท์ หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ หัวจ่ายลม Jet อุปกรณ์ในระบบระบายอากาศแบบครบวงจร ที่มีประสบการณ์มากว่า 15 ปี มั่นใจได้ว่าเราจะให้บริการด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าและบริการที่ดีที่สุด

หากคุณกำลังมองหา หัวจ่ายแอร์ หน้ากากแอร์ ที่มีประสิทธิภาพ ทนทาน ประหยัดพลังงาน
เลือกซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สิครับ ติดต่อเราเลย
โทร : 02-1013846-7, 02-1013605
มือถือ : 095-9582310 , 085-4822861-2
อีเมล : sapaengineer2@gmail.com, salesapa2@gmail.com, salesapa5@gmail.com