ประเภทของหน้ากากแอร์ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน

เลือกหน้ากากแอร์ให้เหมาะ เป่าเย็นสบายตรงใจ ตรงตามใจต้องการ

 

หน้ากากแอร์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อหัวจ่ายลม นับว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบปรับอากาศ ซึ่งจะทำหน้าที่กระจายลมเย็น ลมร้อน และอากาศบริสุทธิ์ภายในห้องนั่นเอง ดังนั้นแล้วการเลือกหน้ากากแอร์ที่เหมาะสม จะช่วยให้ระบบปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และสร้างบรรยากาศที่เย็นสบายภายในห้อง

บทความนี้เลยจะเน้นไปที่การอธิบายประเภทของหน้ากากแอร์ ปัจจัยในการเลือกหน้ากากแอร์ และตัวอย่างการเลือกหน้ากากแอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน ซาป๊ะ เอนจิเนี่ยริ่ง หวังไว้อย่างยิ่งว่าเนื้อหาในบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถเลือกหน้ากากแอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย

ประเภทของหน้ากากแอร์ ที่คุณควรรู้!

อย่างที่เกริ่นไปว่าการเลือกหน้ากากแอร์ที่เหมาะสม จะช่วยให้ระบบปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และสร้างบรรยากาศที่เย็นสบายภายในห้อง แต่ทั้งนี้การที่จะเลือกหน้ากากแอร์ให้เหมาะสมนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักประเภทของมันก่อน ดังนี้

1. หน้ากากจ่ายลมเย็น SAG หรือ Supply air grille)
   หน้ากากแอร์จ่ายลมเย็น หรือ supply air grilleเป็นหน้ากากแอร์ชนิดหนึ่งที่ติดตั้งบนฝ้าเพดาน(Ceiling diffuser หรือผนัง (Wall diffuser) มีหน้าที่กระจายลมเย็นจากระบบปรับอากาศไปยังพื้นที่ภายในห้อง โดยจะมีลักษณะรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า กลม หรือแบบพิเศษก็มีเช่นกัน ผลิตจากวัสดุอย่างอลูมิเนียม พลาสติก เหล็ก มีใบจ่ายลม แบบปรับทิศทางได้ หรือ แบบตายตัว สำหรับวิธีการติดตั้ง ส่วนมากแล้วจะฝังบนฝ้าเพดาน หรือแขวนลอยใต้ฝ้าเพดานก็ได้เช่นกัน
   
   หน้ากากแอร์จ่ายลมเย็นจะมีข้อดีคือ สามารถกระจายลมเย็นได้ทั่วถึงควบคุมทิศทางลมเย็นได้ มีความสวยงาม กลมกลืนกับฝ้าเพดาน และมีหลายรูปแบบให้เลือก โดยส่วนมากแล้วจะใช้งานในห้องนอน ห้องนั่งเล่น ออฟฟิศ จนไปถึงห้างสรรพสินค้าก็มีเช่นกัน
   
   สำหรับการเลือกหน้ากากจ่ายลมเย็น ลำดับแรกเลยก็คือเลือกรูปร่างและขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ เลือกวัสดุที่ทนทาน เลือกแบบปรับทิศทางลมได้ หรือถ้าใครชอบแบบตายตัวก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ทั้งนี้ที่สำคัญคือจงเลือกรุ่นที่มีเสียงรบกวนต่ำจะดีมาก ๆ สรุปแล้วหน้ากากจ่ายลมเย็น (Ceiling Diffuser) เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการกระจายลมเย็นในห้องที่มีขนาดใหญ่ ต้องการความสวยงาม และต้องการควบคุมทิศทางลมเย็นได้ดีนั่นเอง
   
   
2. หน้ากากจ่ายลมร้อนหรือช่องลมกลับ (Return Air Grille :RAG)
   หน้ากากจ่ายลมร้อน หรือ Return Air Grille เป็นหน้ากากแอร์ชนิดหนึ่งที่ติดตั้งบนฝ้าเพดานหรือผนังเช่นเดียวกันกับหน้ากากจ่ายลมเย็น(Supply air grille) ซึ่งมีหน้าที่ดูดอากาศภายในห้องกลับไปยังระบบปรับอากาศเพื่อทำการปรับอุณหภูมิใหม่มักมีฟิลเตอร์กรองอากาศในตัว มีวิธีการติดตั้งเหมือนกันกับหน้ากากจ่ายลมเย็นทุกข้อ มีข้อดีคือดูดอากาศร้อนได้ทั่วถึง ช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นสบาย และสามารถกรองฝุ่นละอองในอากาศ
   สำหรับการเลือกหน้ากากแอร์จ่ายลมร้อน ให้เลือกรูปร่างและขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ เลือกวัสดุที่ทนทาน เลือกรุ่นที่มีฟิลเตอร์กรองอากาศ และขอย้ำอีกรอบว่าเลือกรุ่นที่มีเสียงรบกวนต่ำ ทั้งนี้ หน้ากากจ่ายลมร้อน (Return Air Grille) มักถูกใช้งานร่วมกับหน้ากากจ่ายลมเย็น (Ceiling Diffuser) เพื่อสร้างระบบการไหลเวียนอากาศภายในห้องที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นแล้วก็ควรเลือกใช้หน้ากากแอร์ทั้งสองประเภทไปในทิศทางเดียวกัน
   
   
3. หน้ากากระบายอากาศ (Exhaust Air Grille : EAG)
   หน้ากากระบายอากาศ หรือ Exhaust Air Grille คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับดูดอากาศเสียออกจากห้องหรืออาคาร มักจะติดตั้งอยู่บนผนัง เพดาน หรือพื้น โดยมีหน้าที่หลักคือ ระบายอากาศเสียออกจากห้อง เนื่องจากหน้ากากระบายอากาศช่วยให้อากาศเสียภายในห้องหรืออาคารถูกดูดออกไป ช่วยให้สภาพอากาศภายในห้องดีขึ้น ลดกลิ่นอับชื้น และมลพิษต่างๆ ทั้งยังสามารถควบคุมทิศทางลมได้ ช่วยให้อากาศเสียถูกระบายออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องเพิ่มความสวยงาม หน้ากากแอร์ระบายอากาศก็มีหลากหลายดีไซน์ สามารถเลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งของห้องหรืออาคารได้ดีเลยทีเดียว
   
   ส่วนการติดตั้งหน้ากากแอร์ระบายอากาศ ตำแหน่งการติดตั้งควรอยู่ตรงข้ามกับหน้ากากลมเข้า (Return Air Grille) ทั้งนี้ควรติดตั้งให้สูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร เลือกบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก จนไปถึงควรทำความสะอาดหน้ากากระบายอากาศเป็นประจำ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองอุดตันในหน้ากากแอร์
   
   สำหรับข้อควรพิจารณาในการเลือกหน้ากากแอร์ระบายอากาศ ลำดับแรกให้เลือกขนาดของหน้ากากระบายอากาศควรเหมาะสมกับขนาดของห้อง วัสดุที่ใช้ทำหน้ากากระบายอากาศควรทนทานต่อสภาพอากาศ เป็นต้น
   
   
4. หน้ากากอากาศบริสุทธิ์ (Fresh Air Grille : FAG)
   หน้ากากอากาศบริสุทธิ์ หรือ Fresh Air Grille ก็เป็นหน้ากากแอร์ชนิดหนึ่งที่ติดตั้งบนผนังด้านนอกอาคาร มีหน้าที่นำอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้าสู่ระบบปรับอากาศ มีวิธีการติดตั้ง คือการเจาะรูบนผนังด้านนอกอาคาร และติดตั้งหน้ากากแอร์อากาศบริสุทธิ์เข้าไป
   
   ข้อดีของตัวหน้ากากแอร์ชนิดนี้คือ ช่วยให้อากาศภายในห้องสดชื่น ทั้งยังลดมลพิษทางอากาศภายในห้อง ป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ และควบคุมปริมาณอากาศบริสุทธิ์ได้ มักใช้งานในห้องนอน ห้องนั่งเล่น โรงพยาบาล และสำนักงานต่าง ๆ
   
   สำหรับการเลือกหน้ากากอากาศบริสุทธิ์ เราขอแนะนำว่าให้เลือกรูปร่างและขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ เลือกวัสดุที่ทนทาน มีแผ่นกรองอากาศ มีระบบควบคุมปริมาณอากาศ และมีเสียงรบกวนต่ำ หากใครที่ต้องการให้อากาศสดชื่นอยู่เสมอ หน้ากากอากาศบริสุทธิ์ถือว่าตอบโจทย์

ปัจจัยสำคัญในการเลือกหน้ากากแอร์

เพราะการเลือกหน้ากากแอร์ที่เหมาะสม จะช่วยให้ระบบปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และสร้างบรรยากาศที่เย็นสบายภายในห้องได้ คุณจึงต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

1. ประเภทของห้อง
   มาเริ่มกันที่ประเภทของห้อง โดยเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกหน้ากากแอร์มาก ๆ เพราะหน้ากากแอร์แต่ละประเภทมีการออกแบบมาเพื่อใช้งานในห้องที่มีลักษณะเฉพาะ
   
   เราขอยกตัวอย่างประกอบการอธิบาย เช่น ห้องนอน ควรเลือกหน้ากากแอร์แบบกระจายลมเย็นได้ทั่วถึง เสียงรบกวนต่ำทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ขนาดของหน้ากากแอร์ให้สัมพันธุ์กับปริมาณลมที่จายออกมา ซึ่งความเร็วที่เหมาะสมสำหรับห้องนอนไม่ควรเกิน 3 ม/วินาที และสามารถปรับทิศทางลมเย็นได้ เช่น หน้ากากจ่ายลมเย็นแบบปรับทิศทางได้ หรือ หน้ากากจ่ายลมเย็นแบบสี่เหลี่ยม
   
   อีกตัวอย่างหนึ่งคือ ห้องนั่งเล่น ควรเลือกหน้ากากแอร์แบบกระจายลมเย็นได้ทั่วถึง สวยงาม กลมกลืนกับฝ้าเพดาน และสามารถปรับทิศทางลมเย็นได้ เช่น หน้ากากจ่ายลมเย็นแบบกลม หรือหน้ากากจ่ายลมเย็นแบบพิเศษ เป็นต้น
   
   
2. ขนาดของห้อง
   ต้องอธิบายก่อนว่าหน้ากากแอร์แต่ละขนาดมีประสิทธิภาพ ในการกระจายลมเย็น ลมร้อน และอากาศบริสุทธิ์ที่ แตกต่างกัน ดังนั้นแล้วขนาดของห้องก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน
   
   ยกตัวอย่าง ห้องขนาดเล็ก(ทั้งนี้ต้องสัมพันธุ์กับปริมาณลมที่จ่ายออกจากหัวจ่าย) ก็ควรเลือกหน้ากากแอร์ที่มีขนาดเล็ก กระจายลมเย็นได้ทั่วถึง เสียงรบกวนต่ำ เช่น หน้ากากจ่ายลมเย็นแบบสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก หรือ หน้ากากจ่ายลมเย็นแบบกลมขนาดเล็ก เป็นต้น ส่วนห้องขนาดอื่น ๆ ก็ต้องเลือกหน้ากากแอร์ที่ตอบโจทย์เช่นกัน
   
   
3. รูปแบบการใช้งาน
   หากคุณตั้งใจที่จะใช้งานทั่วไป ก็ควรเลือกหน้ากากแอร์แบบกระจายลมเย็นได้ทั่วถึง เสียงรบกวนต่ำ สวยงาม กลมกลืนกับฝ้าเพดาน เช่น หน้ากากจ่ายลมเย็นแบบสี่เหลี่ยม หรือหน้ากากจ่ายลมเย็นแบบกลม ทั้งนี้หากต้องการใช้งานเฉพาะจุด ควรเลือกหน้ากากแอร์แบบปรับทิศทางลมเย็นได้ เช่น หน้ากากจ่ายลมเย็นแบบปรับทิศทางได้ หรือหน้ากากจ่ายลมเย็นแบบเป่าตรง เป็นต้น

สุดท้ายแล้วการเลือกหน้ากากแอร์ให้เหมาะ เป่าเย็นสบายตรงใจได้แน่นอน เพราะหน้ากากแอร์เปรียบเสมือนด่านแรกที่จะกระจายลมเย็นให้ทั่วถึงห้อง หากเลือกหน้ากากแอร์ไม่ถูก เย็นไม่ทั่ว เสียงดัง ไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป

ซาป๊ะ เอนจิเนียริ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบระบายอากาศ มีหน้ากากแอร์ให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับทุกการใช้งาน เย็นสบาย เงียบสงบ และ รวมไปถึงสินค้าที่เกี่ยวกับแอร์แบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็น หัวจ่ายแอร์ , ท่อดักท์ , ท่อเฟล็กซ์ และ สินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย

 

หากคุณกำลังมองหาหน้ากากแอร์หัวจ่ายแอร์ที่มีประสิทธิภาพ ทนทาน ประหยัดพลังงาน เลือกซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สิครับ ติดต่อเราเลย
โทร : 02-1013846-7, 02-1013605
มือถือ : 095-9582310 , 085-4822861-2
อีเมล : sapaengineer2@gmail.com, salesapa2@gmail.com, salesapa5@gmail.com