ReadyPlanet.com
dot
dot
รวมลิงค์เพื่อนบ้าน
dot
dot
ค้นหาสินค้า


  [Help]
dot
dot
ตะกร้าสินค้า
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน
bulletพัดลมยักษ์แบบตั้งเสา (POLE TYPE BIG FAN)
bulletพัดลมยักษ์แบบตั้งพื้น(FLOOR STAND BIG FAN)
bulletพัดลมยักษ์ ติดเพดาน (CEILING BIG FAN)
bulletพัดลมถังกลม DJT
bulletพัดลมถังกลมขับตรง T40A
bulletพัดลมถังกลมขับสายพาน T40C
bulletพัดลมและท่อ (MOBILE AXIAL FAN)
bulletมินิซีร๊อคโค (MINI SIROCCO)
bulletสเตนเลส (STAINLESS BLOWER)
bulletกรงกระรอกขับตรง CF
bulletกรงกระรอกขับตรง 11-62
bulletเทอโบขับตรง 4-72A
bulletดูดฝุ่นขับตรง C6-46
bulletโบลเวอร์ทนความร้อนสูง (HI TEMP)
bulletโบลเวอร์พลาสติก (FD series)
bulletโบลเวอร์ไฟเบอร์กลาส FB4/72
bulletแรงดันสูง 9-19
bulletแรงดันสูง 9-26
bulletโบลเวอร์แรงดันสูง YYF SERIES
bulletริงโบลเวอร์ HB SERIES
bulletโบลเวอร์แบบกล่องขับตรง (KTJ)
bulletเทอโบขับสายพาน 4-72C
bulletเทอโบขับสายพานTFB
bulletพัดลมติดผนัง (WALL FAN)
bulletพัดลมฟาร์มตุ้มถ่วง (ZAH 380V SERIES)
bulletพัดลมฟาร์มสแตนเลส (ZAH-S SERIES)
bulletพัดลมฟาร์มสังกะสี ZAH 220V SERIES
bulletพัดลมตั้งพื้น/แขวนZAH-F
bulletพัดลมฟาร์ม ขับตรง ZAD
bulletพัดลมฟาร์มไฟเบอร์กลาส (ZAG)
bulletพัดลมหลังคา (Roof fan)ZAG-R
bulletพัดลมไอเย็นแบบติดตั้ง(INSTALL)
bulletพัดลมไอเย็นแบบติดล้อ(MOBILE)
bulletอะไหล่ (SPARE PART)
bulletท่อเฟล็กซ์ยาง (GL HOSE)
bulletท่อเฟล็กซ์ยางพีวีซีใส(PVC HOSE)
bulletท่อผ้าใบเคลือบพีวีซี F-701
bulletท่อผ้าใบเคลือบพีวีซี F-601
bulletท่อเฟล็กซ์ผ้าใบเคลือบพีวีซี(FB)
bulletท่อเฟล็กซ์ผ้าใบเคลือบพีวีซี FR
bulletท่อเฟล็กซ์กันลามไฟ DF
bulletท่อซิลิโคนเคลือบไฟเบอร์ (SILICONE)
bulletท่ออลูมิเนียมฟอล์ย (AL.FOIL)
bulletท่ออลูมิเนียมแข็ง (VENT FLEX.)
bulletท่อเฟล็กซ์ผสม (COMBI FLEX)
bulletท่อเฟล็กซ์พียู (PU FLEX)
bulletท่อกระดูกงู P-TYPE
bulletท่อเฟล็กซ์กระดูกงู A-TYPE
bulletช่องลมกลับเปิดได้ RAG-1B
bulletหัวจ่ายสล๊อท (SLOT AIR GRILLE)
bulletหน้ากากเหลี่ยม (SAG)
bulletเป่าข้างปรับ 2 ชั้น (ADG)
bulletหัวจ่ายเป่าข้างปรับ 1 ชั้น (ASG)
bulletหัวจ่ายกลม (ROUND : CA)
bulletบอลเจ็ท (EYE BALL JET :CL)
bulletวาล์วหัวจ่าย (DISC VALVE)
bulletหมวกกันฝนสแตนเลส EV-S
bulletบอลเจ็ท (ฺBALL JET :JD)
bulletหัวจ่ายเจ็ทกลม (CK JET)
bulletท่อสไปรัล (SPIRAL DUCT)
bulletท่อเหลี่ยม (RECTANGULAR DUCT)
bulletท่อดักท์วงรี (FLAT OVAL DUCT)
bulletมอเตอร์แดมเปอร์ (MD)
bulletแดมเปอร์ (VOLUME DAMPER)
bulletอุปกรณ์ประกอบ(ACCESSORIES)
bulletMITSUBISHI : MET
bulletHASCON
bulletINLINE
bulletเครื่องดูดฝุ่น (DUST COLLECTOR)
bulletเครื่องบำบัดอากาศ (ESP Air Cleaner)
bulletอุปกรณ์กันสะเทือน (SPRING ISOLATION)


OUR SAPA
SAPA ENGINEERING CO.LTD
twitter
SAPA ENGINEER


พัดลมระบายอากาศประหยัดพลังงาน เลือกแบบไหนให้คุ้มค่า

พัดลมระบายอากาศประหยัดพลังงาน เลือกแบบไหนให้คุ้มค่า

มัดรวมปัจจัยที่คุณต้องคำนึง ก่อนซื้อพัดลมระบายอากาศแบบประหยัดพลังงาน

พัดลมระบายอากาศเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท เพื่อใช้ในการระบายอากาศเสียหรือความร้อนออกจากพื้นที่ทำงาน ช่วยให้อากาศสะอาด และถ่ายเทได้ดี ส่งผลดีต่อสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งนี้ในปัจจุบันการใช้พัดลมระบายอากาศแบบประหยัดพลังงานได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าและช่วยลดมลพิษทางอากาศอีกด้วย

รวมไปถึงความสำคัญของพัดลมระบายอากาศต่อทุกอุตสาหกรรม มีข้อดีหลายประการนอกเหนือจากช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยลดมลพิษทางอากาศ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องจักร และเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานอีกด้วย แต่ทั้งนี้วิธีการในเลือกใช้พัดลมระบายอากาศที่จะทำให้คุณได้รับคุ้มค่านั้น มันก็ทริคอยู่ ซึ่งจะกล่าวในบทความนี้ อ่านจบไปเลือกซื้อได้เลย

รู้จักประเภทของพัดลมระบายอากาศประหยัดพลังงาน

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ก่อนที่คุณจะไปซื้อมัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักกับมันก่อน พัดลมระบายอากาศก็เช่นกัน ซึ่งพัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมประหยัดพลังงาน แบ่งออกตามลักษณะของมอเตอร์ที่ใช้ ดังนี้

  1. พัดลมระบายอากาศแบบมอเตอร์กระแสตรง (DC)
    เป็นพัดลมระบายอากาศที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงกว่ามอเตอร์กระแสสลับ (AC) ทั่วไป และสามารถใช้พลังงานได้น้อยกว่าถึง 50% เพราะมอเตอร์กระแสตรง (DC) ทำงานโดยใช้พลังงานไฟฟ้ากระแสตรง ทำให้สามารถควบคุมความเร็วรอบของมอเตอร์ได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้พัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมาก

                                   
  2. พัดลมระบายอากาศแบบมอเตอร์อินเวอร์เตอร์
    เป็นพัดลมระบายอากาศอีกประเภทหนึ่ง โดยใช้มอเตอร์กระแสสลับ (AC) แต่ควบคุมความเร็วรอบของมอเตอร์ด้วยอินเวอร์เตอร์ ทั้งนี้อินเวอร์เตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้ากระแสสลับให้เป็นกระแสไฟฟ้ากระแสตรง จากนั้นจึงแปลงกลับเป็นกระแสไฟฟ้ากระแสสลับอีกครั้ง แต่มีความเร็วรอบที่ปรับได้

  3. พัดลมระบายอากาศด้วยใบพัดแบบพิเศษ
    เป็นพัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมที่ใช้ใบพัดแบบพิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศและประหยัดพลังงาน เช่น ใบพัดแบบซ้อนกัน ใบพัดแบบปีกนก เป็นต้น สามารถช่วยเพิ่มแรงลมและลดแรงเสียดทานระหว่างอากาศกับใบพัด

นอกจากนี้ พัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมประหยัดพลังงานยังมีประเภทย่อยอื่นๆ อีกมากมาย เช่น พัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมโซล่าเซลล์ พัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมแบบฝังผนัง เป็นต้น เลือกใช้ได้เลย


5 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้พัดลมระบายอากาศ

นอกจากประเภทของพัดลมระบายอากาศข้างต้น ที่คุณต้องพิจารณาแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่คุณต้องคำนวณในการเลือกซื้อ ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้

  1. ขนาดของพัดลม
    ขนาดของพัดลมระบาย มีผลต่อปริมาณอากาศที่สามารถระบายได้ คุณควรพิจารณาขนาดของพัดลมระบายอากาศให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการระบายอากาศ ทั้งนี้ขนาดของพัดลมระบายอากาศมักระบุด้วยขนาดของใบพัด เช่น พัดลมระบายอากาศขนาด 20 นิ้ว จะมีใบพัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 นิ้ว คุณสามารถคำนวณขนาดของพัดลมระบายอากาศที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการระบายอากาศ โดยใช้สูตร


    ‘ปริมาณอากาศที่ต้องการระบาย (m3/h) / อัตราการไหลของอากาศของพัดลม (m3/h) = จำนวนพัดลมที่ต้องใช้’

    ขอตัวอย่างเช่น พื้นที่ที่ต้องการระบายอากาศมีขนาด 100 ตารางเมตร ต้องการระบายอากาศออกทั้งหมด 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง อัตราการไหลของอากาศของ
    พัดลมระบายอากาศขนาด 20 นิ้ว อยู่ที่ประมาณ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

    ‘จำนวนพัดลมที่ต้องใช้ = 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง / 500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง = พัดลม 2 ตัว’
    ดังนั้นพื้นที่ขนาด 100 ตารางเมตร ต้องการพัดลมระบายอากาศขนาด 20 นิ้ว จำนวน 2 ตัว แต่สูตรนี้เป็นเพียงข้อแนะนำเท่านั้น คุณสามารถใช้สูตรอื่น ๆ ได้เช่นกัน

  2. กำลังไฟฟ้า
    เชื่อเถอะว่ากำลังไฟฟ้าของพัดลมระบายอากาศ มีผลต่อปริมาณพลังงานที่ใช้ในการทำงานแน่นอน กำลังไฟฟ้าของพัดลมระบายอากาศ มักระบุเป็นหน่วยวัตต์ (W) เช่น พัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมขนาด 20 นิ้ว อาจมีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 1,000 วัตต์ เป็นต้น

    แน่นอนว่าคุณสามารถคำนวณกำลังไฟฟ้าของพัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับการใช้งาน และเราก็มีสูตรในการคำนวณมาฝากเช่นเคย ดังนี้

    ‘ปริมาณอากาศที่ต้องการระบาย (m3/h) * ความดันอากาศที่ต้องการ (Pa) / ประสิทธิภาพของพัดลม (η) = กำลังไฟฟ้า (W)’

    เราขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากกว่าเดิมเช่น พื้นที่ที่ต้องการระบายอากาศมีขนาด 100 ตารางเมตร ต้องการระบายอากาศออกทั้งหมด 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ความดันอากาศที่ต้องการอยู่ที่ประมาณ 100 Pa ประสิทธิภาพของพัดลมอยู่ที่ประมาณ 0.7 นั่นเท่ากับว่า

    ‘กำลังไฟฟ้า (W) = 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง * 100 Pa / 0.7 = 1428.57 วัตต์’

    ดังนั้นc]h;พื้นที่ขนาด 100 ตารางเมตร ต้องการพัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมที่มีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 1,428.57 วัตต์ เป็นต้น แต่ทั้งนี้เราอยากแนะนำให้คุณเลือกพัดลมระบายอากาศที่มีกำลังไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน หากเลือกกำลังไฟฟ้ามากเกินไป อาจทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น

  3. ระดับเสียง
    ต่อมาเป็นเรื่องของระดับเสียงของพัดลมระบายอากาศ แน่นอนว่ามีผลต่อความสะดวกในการทำงานอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นแล้วก็ควรพิจารณาระดับเสียงของพัดลมระบายอากาศให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น พื้นที่ทำงานต้องการความเงียบ ควรใช้พัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมที่มีระดับเสียงต่ำ เป็นต้น
    ทั้งนี้ระดับเสียงของพัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรม มักระบุเป็นหน่วยเดซิเบล (dB) เช่น พัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมขนาด 20 นิ้ว อาจมีระดับเสียงอยู่ที่ประมาณ 50 dB
    องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าระดับเสียงในการทำงานไม่ควรเกิน 85 dB เป็นเวลานาน หากระดับเสียงสูงกว่านี้ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น อาการหูอื้อ ปวดศีรษะ ปัญหาการนอนหลับ เป็นต้น

    หน้าที่ของคุณก็คือต้องพิจารณาระดับเสียงของพัดลมระบายอากาศโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น พื้นที่ทำงานมีเครื่องจักรทำงานอยู่ด้วย อาจทำให้ระดับเสียงสูงขึ้น ควรเลือกพัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมที่มีระดับเสียงต่ำ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

  4. วัสดุการผลิต
    วัสดุที่ใช้ผลิตพัดลมระบายอากาศ จะมีผลต่อความทนทานและความแข็งแรงของพัดลม ดังนั้นคุณควรเลือกพัดลมที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมคุณมากที่สุด เช่น พื้นที่ทำงานมีสารเคมีกัดกร่อน ควรเลือกพัดลมระบายอากาศที่ทำจากวัสดุที่ทนต่อสารเคมี

    ทั้งนี้วัสดุที่ใช้ผลิตพัดลมระบายอากาศที่นิยมใช้กัน ได้แก่ เหล็ก เป็นวัสดุที่แข็งแรงทนทาน ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี นิยมใช้ผลิตโครงสร้างของพัดลมระบายอากาศ หรือจะเป็นอะลูมิเนียม ที่เบากว่าเหล็ก แต่แข็งแรงทนทานเช่นกัน นิยมใช้ผลิตใบพัดของพัดลมระบายอากาศ และพลาสติก ราคาถูก นิยมใช้ผลิตเป็นใบพัดของพัดลมระบายอากาศขนาดเล็ก

    ยกตัวอย่างหากว่าพื้นที่ทำงานมีสารเคมีกัดกร่อน ควรเลือกพัดลมระบายอากาศที่ทำจากวัสดุที่ทนต่อสารเคมี เช่น สแตนเลส เหล็กเคลือบอีพ็อกซี่ เป็นต้น

  5. รับประกัน
    จงจำไว้เสมอว่าการรับประกันสินค้า บ่งบอกถึงคุณภาพของสินค้าและบริการหลังการขายของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย ทั้งนี้การรับประกันพัดลมระบายอากาศ มักจะอยู่ในช่วง 1 ปี 2 ปี หรือ 3 ปี คุณต้องพิจารณาเลือก
    พัดลมระบายอากาศอุตสาหกรรมที่มีระยะเวลาการรับประกันที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานโดยไม่มีปัญหา นอกจากระยะเวลาการรับประกันแล้ว ควรพิจารณาเงื่อนไขการรับประกันของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย เพื่อให้แน่ใจว่าหากพัดลมระบายอากาศมีปัญหา จะได้รับบริการหลังการขายที่เหมาะสม

    โดยทั่วไปแล้ว เงื่อนไขการรับประกันของพัดลมระบายอากาศมักครอบคลุมถึงชิ้นส่วนต่างๆ ของพัดลม เช่น มอเตอร์ ใบพัด เป็นต้น คุณต้องตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ

 

สุดท้ายแล้วการเลือกพัดลมระบายอากาศประหยัดพลังงาน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือ กำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการทำงาน เพราะหากเลือกกำลังไฟฟ้ามากเกินไป อาจทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น ส่วนปัจจัยอื่น ๆ เป็นเพียงส่วนเสริมที่จะทำให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากกว่าเดิมเท่านั้น

นอกจากนี้ ควรเลือกพัดลมระบายอากาศที่มีใบพัดขนาดใหญ่ เพราะสามารถระบายอากาศได้มากกว่าใบพัดขนาดเล็ก และที่สำคัญที่สุดคือ ควรเลือกพัดลมระบายอากาศจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้อย่าง ซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

บริษัท ซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับงานระบบระบายอากาศที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี สินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพสูง ประหยัดพลังงาน และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015และ มาตรฐานอุตสาหกรรม มอก.934-2558 บริษัทฯ มีทีมวิศวกรและช่างผู้ชำนาญการ ที่พร้อมให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายอย่างครบวงจร

 

หากคุณกำลังมองหาพัดลมระบายอากาศประหยัดพลังงานที่คุ้มค่าและมีคุณภาพ เลือกซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด สิครับ ติดต่อเราเลย
โทร : 02-1013846-7, 02-1013605
มือถือ :
095-9582310 , 085-4822861-2
อีเมล :
sapaengineer2@gmail.com, salesapa2@gmail.com, salesapa5@gmail.com

 

 




บทความ

ปล่องลมแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานอย่างไร?
พัดลมกรงกระรอก คืออะไร เหมาะกับการใช้งานแบบไหน
เคล็ดลับการเลือกซื้อพัดลมหอยโข่งให้คุ้มค่าที่สุด
ประเภทของหน้ากากแอร์ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน
พัดลมฟาร์ม ประโยชน์และวิธีเลือกให้เหมาะสม
พัดลมโบลเวอร์กับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ
เทคนิคการเลือกท่อเฟล็กซ์สำหรับงานระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม
ไขข้อข้องใจระบบ Ventilation คืออะไร และควรเลือก พัดลมระบายอากาศ แบบไหนดี ?
พัดลมไอเย็น เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า
พาส่องพัดลมระบายอากาศ ซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง คุณภาพเยี่ยม ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
พัดลมอุตสาหกรรม เลือกอย่างไรให้เหมาะกับงาน



SAPA ENGINEERING CO.,LTD