รวบ 3 ปัจจัยสำคัญที่คุณต้องคำนึงก่อนเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรม
พัดลมอุตสาหกรรมเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมและพื้นที่ขนาดใหญ่ ด้วยประสิทธิภาพสูงในการระบายอากาศ ควบคุมอุณหภูมิ และกำจัดมลพิษทางอากาศ พัดลมอุตสาหกรรมมีหลากหลายประเภทและขนาด ตั้งแต่พัดลมแบบติดผนังขนาดเล็กไปจนถึงพัดลมขนาดใหญ่ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม แต่ละประเภทมีคุณสมบัติเฉพาะที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น พัดลมระบายอากาศ พัดลมดูดอากาศ หรือพัดลมไอน้ำ การเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ประหยัดพลังงาน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในพื้นที่ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ พัดลมอุตสาหกรรมยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาคุณภาพอากาศและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน โดยช่วยลดการสะสมของสารพิษ ฝุ่นละออง และก๊าซอันตรายต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุและโรคจากการทำงานในภาคอุตสาหกรรม
พัดลมอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยระบบมอเตอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ทำให้พัดลมอุตสาหกรรมสามารถทนต่อสภาพการใช้งานหนักในโรงงานที่มีฝุ่นละอองและความร้อนสูง นอกจากนี้พัดลมอุตสาหกรรมยังมีระบบป้องกันการสั่นสะเทือนที่ช่วยลดเสียงรบกวนและยืดอายุการใช้งานของตัวมอเตอร์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการลงทุนระยะยาวในระบบระบายอากาศ
พัดลมอุตสาหกรรมเป็นอุปกรณ์ที่หลาย ๆ หน่วยงานเลือกใช้ เพราะมีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี ช่วยลดความร้อนและความชื้น ป้องกันไม่ให้อากาศเกิดการอับชื้น และเกิดเชื้อรา เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ หรือพื้นที่ที่มีมลพิษ ดังนั้นแล้วพัดลมอุตสาหกรรมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลาย ๆ หน่วยงานจำต้องมี
ถึงกระนั้นแล้ว พัดลมอุตสาหกรรมก็มีหลากหลายประเภท และมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันออกไป ทั้งพัดลมอุตสาหกรรมแบบใบดำ หรือใบพัดที่เราเห็นอยู่บ่อย ๆ หรือจะเป็นพัดลมใบพัดติดผนัง ตั้งพื้น จนไปถึงพัดลมไอน้ำ จะเห็นว่าพัดลมอุตสาหกรรมนั้นมีหลากหลายรูปแบบมาก ๆ ฉะนั้นแล้วผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ต้องเลือกใช้ให้ตรงประเภทมากที่สุด
บทความนี้เลยจะมาชี้แนะแนวทางการเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรม ให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ และสภาพแวดล้อมให้มากที่สุด โดยมีปัจจัยอยู่แค่ไม่กี่อย่างในเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรม อ่านจบแล้วไปเลือกซื้อได้เลย
การเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมให้ตรงกับความต้องการ เป็นความจำเป็นของผู้บริโภคเพื่อที่จะได้พัดลมมาใช้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ทั้งนี้ก่อนเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรม คุณต้องตรวจสอบบริเวณที่จะตั้งพัดลมก่อนว่ามีความพร้อมเพียงพอไหม ไม่ว่าจะเป็นกำลังไฟ หรือขนาดของพื้นที่ หากคุณมั่นใจแล้วว่าสภาพแวดล้อมมีความพร้อม ถึงเวลาเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมแล้ว!
- ขนาดของพัดลมอุตสาหกรรม
การเลือกขนาดของพัดลมอุตสาหกรรมไม่ใช่แค่เรื่องขนาดใหญ่ หรือเล็ก เพราะขนาดของพัดลมจะส่งผลต่อปริมาณลมที่ส่งออกในอัตราส่วนโดยตรง กล่าวคือ พัดลมอุตสาหกรรมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง หรือใบพัดที่ใหญ่กว่าจะมีปริมาณลมที่ส่งออกมากกว่าพัดลมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของใบพัดที่มีขนาดเล็กกว่า ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ พัดลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใบพัด 20 นิ้วจะมีปริมาณลมที่ส่งออกมากกว่าพัดลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใบพัด 10 นิ้วถึงสองเท่า
แน่นอนว่าหลาย ๆ คนอาจจะมีเครื่องหมายคำถามอยู่ว่าขนาดของใบพัดเกี่ยวกับแรงลมอย่างไร ? กล่าวง่าย ๆ ได้ว่าเนื่องจากใบพัดทำหน้าที่เป็นตัวเร่งความเร็วให้กับอากาศ เป็นเหตุผลว่าใบพัดขนาดใหญ่จะมีพื้นที่สัมผัสกับอากาศมากกว่าใบพัดขนาดเล็ก ทำให้อากาศได้รับแรงเร่งจากใบพัดมากกว่า ส่งผลให้ความเร็วของอากาศที่ออกจากพัดลมมีมากกว่า ดังนั้นแล้วเรื่องขนาดของพัดลมอุตสาหกรรมเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ ‘ขนาด’ เพราะมีแรงลมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ทั้งนี้นอกจากขนาดของใบพัดแล้ว ความเร็วรอบของมอเตอร์ที่ขับเคลื่อนพัดลมอุตสาหกรรมก็ส่งผลต่อปริมาณลมที่ส่งออกเช่นกัน ความเร็วรอบที่สูงขึ้นจะทำให้ใบพัดหมุนเร็วขึ้น ส่งผลให้อากาศได้รับแรงเร่งจากใบพัดมากกว่าปกติ ส่งผลให้ความเร็วของอากาศที่ออกจากพัดลมอุตสาหกรรมมีมากกว่าเช่นกัน
- เสียงรบกวน
‘มลพิษทางเสียง’ ใคร ๆ ก็ไม่อยากได้ยิน ยิ่งมาจากสิ่งของที่คุณได้เลือกใช้มากับมือแล้ว ความหงุดหงิดก็จะเพิ่มขึ้นตามด้วย ดังนั้นแล้วพัดลมอุตสาหกรรมที่มีเสียงรบกวนดังเกินไป อาจรบกวนสมาธิในการทำงานของคุณเอง หรือทำให้รู้สึกไม่สบายใจ หงุดหงิดง่าย ดังนั้นแล้วในการเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมจึงควรพิจารณาระดับเสียงรบกวนจากพัดลมให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากความเร็วรอบของมอเตอร์เพราะความเร็วที่สูงขึ้นย่อมให้ใบพัดหมุนเร็วขึ้น การเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมจึงต้องคำนึงถึงหลากหลายปัจจัยควบคู่กันไป
- ความปลอดภัย
แน่นอนว่าการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดจำเป็นต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน มอก. มาตรฐาน IEC เป็นต้น พัดลมอุตสาหกรรมก็เช่นกัน รวมไปถึงโครงสร้างของพัดลมอุตสาหกรรมที่ควรมีความแข็งแรงทนทาน เพื่อป้องกันไม่ให้พัดลมเกิดการชำรุดหรือแตกหักได้ง่าย ทั้งนี้วัสดุที่ใช้ทำพัดลมอุตสาหกรรมก็ควรเป็นวัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม เหล่านี้เป็นต้น
จนไปถึงระบบความปลอดภัยอุตสาหกรรม เช่น ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อพัดลมเกิดความร้อนสูงเกินไป หรือตัดไฟอัตโนมัติเมื่อพัดลมเกิดการชำรุด เพื่อให้เกิดความปลอดขั้นสูงสุด ทั้งนี้เรื่องความปลอดภัยไม่ใช่จะคำนึงแค่ตอนเลือกซื้อ ตอนใช้ก็ต้องป้องกันความเสียหายของพัดลมอุตสาหกรรมเช่นกัน โดยห้ามนำพัดลมไปวางอยู่บริเวณที่มีความชื้น และวางห่างจากวัตถุอื่น ๆ อย่างน้อย 1 เมตร
ทั้งหมดคือ 3 ปัจจัยหลัก ๆ ที่คุณควรคำนึงในการเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรม นอกจากนี้แล้ว ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วยก็จะดีมาก ๆ เช่น กำลังไฟ ทิศทางลม หรือดีไซน์ของพัดลมอุตสาหกรรมที่คุณอยากได้ เหล่านี้ก็เป็นปัจจัยเสริมที่คุณเองสามารถนำไปปรับใช้ได้เลย
เมื่อปัจจัยต่าง ๆ เริ่มเข้าที่แล้ว ต่อมาก็คือการเลือกพัดลมอุตสาหกรรมให้ถูกใจคนใช้งาน ซึ่งแน่นอนลำดับแรกต้องเลือกพัดลมให้ตรงกับประเภทการใช้งาน เนื่องจากพัดลมอุตสาหกรรมมีประเภทการใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น พัดลมระบายอากาศ พัดลมดูดอากาศ พัดลมเป่าลม พัดลมสร้างแรงลม เป็นต้น
จากนั้นให้เลือกพัดลมอุตสาหกรรมให้ตรงกับลักษณะของการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการระบายอากาศในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม โกดังสินค้า สนามกีฬา ฯลฯ ควรเลือกพัดลมอุตสาหกรรมประเภทระบายอากาศแบบ axial flow fan เช่น พัดลมถังกลม หรือ centrifugal fan เช่น พัดลมโบลเวอร์พัดลมหอยโข่ง ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถส่งลมได้ปริมาณมากและครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
สุดท้ายแล้วหากคุณยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกใช้พัดลมอุตสาหกรรมในรูปแบบใดดีให้ ซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง เป็นที่ปรึกษาของคุณ เราคือผู้ผลิต และตัวแทนจำหน่าย อุปกรณ์สำหรับงานระบบระบายอากาศ ในอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม โกดัง และฟาร์มปศุสัตว์ ซึ่งทางบริษัทได้คัดสรร พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ทั้งด้านสินค้าและบริการที่รวดเร็วในการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า ซึ่งบริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในงานระบายอากาศ
สนใจพัดลมอุตสาหกรรมติดต่อ ซาป๊ะ เอ็นจิเนียริ่ง ได้ทุกช่องทาง
โทร : 02-1013846-7, 02-1013605
มือถือ : 095-9582310 , 085-4822861-2
อีเมล : sapaengineer2@gmail.com, salesapa2@gmail.com, salesapa5@gmail.com